ภาพประกอบจาก www.tat8.com |
1. แก่งหินเพิง ซึ่งแก่งนี้เป็นหัวใจหลักของทริปล่องแก่งในครั้งนี้เนื่องจากมีกระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก ต้องอาศัยทักษะจึงท้าทายเป็นอย่างยิ่ง แก่งมีความยาวประมาณ 150 เมตร ใครอยากท้าทายก็สมใจกันเลยจ้า
2. แก่งผักหนามล้อม เป็นกระแสน้ำขนาดใหญ่ไหลวนไปมา แต่กระแสน้ำไม่แรงมากนัก สามารถพายเรือได้อย่างสบายๆ
3. แก่งวังบอน มีความยาวประมาณ 30 เมตร กระแสน้ำจะไหลเป็นทางลาดเอียงลงมายังแก่งลูกเสือเป็นมุม 30 องศา แก่งนี้พายเรือกันได้แบบชิวๆนะจ๊ะ
4. แก่งลูกเสือ เป็นอีกแก่งหนึ่งที่เราพายเรือกันได้แบบชิวๆ ชมวิวธรรมชาติข้างทาง แต่ต้องระวังอันตรายจากกิ่งไม้ข้างทาง ที่อาจจะโดนหนามเกี่ยวหรือตำให้เรามีแผลกลับไปได้นะจ๊ะ
5. แก่งวังไทร เป็นแก่งที่มีความกว้างพอสมควรประมาณ 60 เมตร และยาวประมาณ 150 เมตร และต้องใช้ทักษะในการพายเรือค่อนข้างสูงเช่นเดียวกับแก่งหินเพิง เนื่องจากกระแสน้ำจะไหลม้วนตัวเป็นวงคลื่น จึงสนุกกันได้อีกรอบหลังจากพักเหนื่อยกันมาจากแก่งก่อนหน้านี้แล้ว และส่วนใหญ่แก่งนี้จะเป็นแก่งสุดท้ายที่นักล่องแก่งส่วนใหญ่ขึ้นไปพักรับประทานอาหารและอาบน้ำกันจ้า
6. แก่งงูเห่า เป็นแก่งสุดท้ายในทริปนี้ ปริมาณน้ำไหลจะไหลในลักษณะแบบฝายกั้นน้ำ จึงพายเรือกันได้ไม่ยากนัก
เป็นอันว่าทราบรายละเอียดของแก่งกันไปทั้ง 6 แก่งแล้ว จะเห็นได้ว่าทริปล่องแก่งของเราครั้งนี้เหมาะมากเนื่องจากแก่งแรกนี้เหนื่อยพอสมควร แต่เราก็ได้พักกันที่แก่งที่ 2, 3 และ 4 จากนั้นก็มาท้าทายใหม่ในแก่งที่ 5 ซึ่งทำให้เหมือนมีความท้าทายและระทึกใจได้ตลอดเวลาจริงๆ ขอแนะนำให้ลองไปพิสูจน์ความท้าทายกันได้ที่นี่ แก่งหินเพิง จ้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น