วันศุกร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2554

งานไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 23 ( 4-7 พย. นี้ ) ณ อิมแพค เมืองทองธานี

              ใกล้จะสิ้นปี 2554กันอีกแล้ว เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วในแต่ละปี และเรามีงานท่องเที่ยวดีๆมานำเสนอกันอีกแล้ว นั่นคือ "งานไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 23" จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-7 พฤศจิกายน ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี ภายใต้แนวคิด "เที่ยวคุ้มส่งท้ายปี ที่ใครก็ไม่ควรพลาด" ซึ่งภายในงานมีผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวมากมายมาร่วมออกบูธกันกว่า 750 บูธ ทั้งมีแพ็คเกจกิจกรรมดีๆ มาร่วมสนับสนุนลดราคากันอย่างมากมาย อาทิ การแค้มปิ้ง การดำน้ำ และอื่นๆอีกมากมายเป็นต้น แถมราคาห้องพักภายในงานก็ยังมีจัดมากระหน่ำกันจนหนำใจ โดยภายในงานจะแบ่งโซนการจัดออกเป็น 5 โซน คือ


       ส่วนที่ 1 โซนโรงแรมรีสอร์ท เป็นการรวมเอาแพ็คเกจโรงแรมที่พัก และโปรโมชั่นต่างๆอย่างสุดคุ้มมาไว้ให้เพื่อนๆได้เลือกซื้อกันกว่า 500 บูธ
       ส่วนที่ 2 โซนบริการท่องเที่ยว เป็นการให้บริการจากผู้ประกอบการด้านธุรกิจรถเช่า สายการบิน เรือท่องเที่ยว สปา สถานบันเทิง สถานพักผ่อนหย่อนใจ รวมถึงสินค้าท่องเที่ยวทั่วไป ได้แก่ อุปกรณ์เดินทาง อุปกรณ์แค้มปิ้ง ดำน้ำ กล้องถ่ายรูป และนิตยสารท่องเที่ยว มาลดราคาพิเศษเฉพาะงานนี้กว่า 100 บูธ
         
            ส่วนที่ 3 โซนทัวร์นำเที่ยว โซนนี้เป็นการให้บริการจากบริษัททัวร์ต่างๆที่มีใบอนุญาตประกอบการนำเที่ยวที่สำนักพัฒนาการท่องเที่ยว (สพท.) ให้การรับรอง แน่นอนว่าต้องมีแพ็คเกจทัวร์ดีๆมาลดราคาแข่งขันกันอย่างมากมาย
            ส่วนที่ 4 โซนเที่ยวไปกินไป ส่วนนี้จะเป็นโซนของการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มสุดแสนอร่อย สินค้าโอท็อป และของฝากของที่ระลึกจากทั่วสารทิศ มาให้ซื้อเป็นของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้านอีกกว่า 100 บูธ
           
ส่วนที่ 5 โซนกิจกรรม มีการสาธิตตั้งเต็นท์แค้มปิ้งในป่า และกิจกรรมต่าง ๆ บนเวทีมากมาย อาทิ การแสดงร่วมสมัยอันสวยงามจากผู้ประกอบการ และสนุกกับการเล่นเกมส์ ตอบคำถาม จับรางวัล ที่จะสร้างสีสัน สลับกันขึ้นมาสร้างความบันเทิงตลอดงานอย่างเต็มอิ่มทั้ง 4 วัน 
               อย่าลืมไปใช้บริการกันนะจ๊ะ งานดีๆแบบนี้จัดขึ้นทั้งที รับรองว่าน่าจะมีแพ็คเกจดีๆไว้บริการเหล่าบรรดานักเที่ยวกันแน่นอน และที่สำคัญก่อนไปวางแผนการเดินทางกันด้วยนะจ๊ะ จะได้ไม่เสียเวลาไปกับสภาพรถติดของบ้านเรา

         Trick ดีๆ : หากเพื่อนๆสนใจจะใช้บริการห้องพักอาจจะเลือกซื้อกับ hotel Agency ก็น่าจะลดได้เยอะกว่า เพราะนอกจากเค้าจะได้  Rate ราคาลดมาจากโรงแรมแล้ว
อาจจะยังมีแพคเกจสมนาคุณอื่นๆเสริมให้ด้วย แบบนี้เค้าเรียกว่าได้แบบ 2 ต่อ นะจ๊ะ ยังไงก็ลองไปเลือกซื้อกันดูน๊า วางแผนกันล่วงหน้าก็ยิ่งดีนะคะ จะได้ไม่พลาดโอกาส


ภาพจากเว็บไซต์ : google

วันอังคารที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2554

เที่ยวชมพระพุทธรูปทองคำ วัดไตรมิตร

           สวัสดีเพื่อนๆชาว hotelthailand-travel ทุกคนนะคะ วันก่อนได้มีโอกาสนั่งผ่านไปแถวๆเยาวราช เลยคิดได้ว่ามีวัดนึงแถวๆนี้ที่น่าสนใจไม่น้อย นั่นคือ "วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร" เป็นวัดที่โด่งดังในเรื่องของพระพุทธรูปทองคำ ซึ่งได้รับการบันทึกไว้ในกินเนสบุ๊ค ว่าเป็น"ปูชนียบุคคลที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก" ซึ่งการไปวัดก็ง่ายแสนง่าย เพราะอยู่ใกล้ๆกับสถานีรถไฟหัวลำโพงเพียงนิดเดียวเท่านั้น


พิพิธภัณฑ์ในมณฑป
           วัดไตรมิตร นั้นแต่เดิมมีชื่อว่า "วัดสามจีน" ต่อมาจึงได้เปลี่ยนชื่อเพื่อความเป็นศิริมงคลให้เป็น "วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร" อันมีฐานะเป็นวัดในพระอารามหลวง ภายในพระอุโบสถของวัดไตรมิตรนั้นมีพระประธาน คือ องค์พระพุทธทศพลญาณ หรือ หลวงพ่อโตวัดสามจีน นั่นเอง จะบอกว่าองค์ท่านนั้นเชื่อกันว่าศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมาก ชาวบ้านจึงนิยมมากราบไหว้ขอพรกันไม่ขาดสายเลยทีเดียว


พระพุทธรูปทองคำ
           นอกจากองค์พระประธานแล้วยังมีพระมหามณฑป ที่มีการก่อสร้างอย่างวิจิตรงดงาม ตระการตาอันมีความสูงถึง 4 ชั้น ซึ่งภายในมณฑปนี้มีพระพุทธรูปทองคำ อันเป็นพระพุทธรูปในสมัยอยุทธยา เชื่อกันว่าชาวบ้านได้เอาปูนพอกไว้ตอนสมัยสงครามกรุงศรี เพื่อกันมิให้ฝ่ายพม่าเผาลอกเอาทองไป จึงเหลือตกทอดมาถึงชาวไทยให้ได้ประดับเป็นบารมีคู่บ้านคู่เมือง มาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งพระพุทธรูปทองคำนี้มีชื่อว่า "พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร" ทั้งองค์เป็นทองคำแท้ที่มีน้ำหนักถึง 5 ตันเลยทีเดียว (โอ้ว คิดดูสิว่าจะงดงามแค่ไหน)

ภาพประติมากรรมในพิพิธภัณฑ์
ด้วยน้ำหนักขนาดนี้นี่เองซ้ำองค์พระยังถูกพอกปูนไว้ด้วย ทำให้ยากต่อการเคลื่อนย้าย จนเกิดอุบัติเหตุตกลงมากระแทกพื้นจนปูนมีรอยแตกทำให้เห็นถึงเนื้อทองคำแท้อันงดงามนี้ได้ และต่อมาก็ได้มีการขุดคุ้ยดินใต้ฐานทับเกษตรออก จึงพบกุญแจกลสำหรับถอดองค์พระออกเป็นส่วนได้ 9 ส่วนด้วยกัน จึงสะดวกในการอัญเชิญองค์พระมาประดิษฐานไว้ยังพระวิหาร มีการตรวจสอบเนื้อทองขององค์พระ ปรากฏว่าเป็นทองเนื้อเจ็ด น้ำสองขา(มาตราทองคำของไทยโบราณ ซึ่งเป็นทองที่มีค่าของเนื้อทองรองจากทองนพคุณหรือทองเนื้อเก้า คิดเป็นมูลค่าหลายร้อยล้าน และภายในวัดยังมีพิพิธภัณฑ์ให้เราได้เดินหาความรู้เกี่ยวกับองค์พระพุทธรูปทองคำด้วย

             สำหรับใครที่ยังไม่ได้ไปนมัสการพระพุทธรูปทองคำที่วัดไตรมิตรนั้นอย่าลืมหาโอกาสไปทำบุญเพื่อความเป็นศิริมงคลของตัวเองกันนะคะ

"วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร"ที่ตั้ง : ถ.มิตรภาพ (ตรีมิตร) ตลาดน้อย สัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ 10100
เปิด : ทุกวัน 6.00 – 17.00 น.
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟหัวสำโพงตรงมาทางถนนเยาวราช ข้ามสะพานแล้วเลี้ยวซ้าย มายังถนนมิตรภาพ (ตรีมิตร) วัดไตรมิตรจะอยู่ทางด้านขวามือ สามารถนำรถเข้ามาจอดได้ในวัดค่ะ