วันอาทิตย์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

10 สถานที่ฮันนีมูนในเมืองไทย! (เที่ยวหน้าฝนกับคนรู้ใจ 2)


          จากก่อนหน้านี้ที่ได้นำเสนอสถานที่ฮันนีมูนไปแล้ว 5 ที่ด้วยกัน วันนี้มาพบกับสถานที่ฮันนีมูนในเมืองไทย อีก 5 สถานที่ที่จะทำให้คุณและคนรักมีความสุข และไม่มีวันที่จะลืมเก็บประสบการณ์ดีๆไว้ในความทรงจำตลอดไป เริ่มกันเลยนะคะ
         
          1.  Anantara Resort And Spa Golden Triangle เชียงราย : รีสอร์ททางเหนือระดับ 5 ดาว ใกล้เมืองเชียงแสนถูกโอบล้อมด้วยขุนเขาและธรรมชาติที่สวยงาม มองลงไปเบื้องล่างนั้นเป็นทัศนียภาพอันงดงามของแม่น้ำโขง ตัดกับภูเขาตั้งสูงสง่าจากฝั่งพม่าและลาว ห้องพักมีความกว้างขวาง ได้รับการตกแต่งในสไตล์ล้านนาประยุกต์ ทั้งยังมีระเบียงที่กว้างขวาง ให้คุณและคนรักได้ชมทัศนียภาพกันอย่างเพลิดเพลิน และอิ่มอกอิ่มใจกับบรรยากาศที่เป็นใจให้กับการสวีทหวานระหว่างคุณ ในขณะที่นั่งรับประทานอาหารด้วยกันที่ด้านนอก และมอบความเพลิดเพลินให้คุณด้วยห้องน้ำที่เปิดโล่งสามารถชมวิวด้านนอกริมฝั่งแม่น้ำโขงได้อีกด้วย

          2. Tamarind Village เชียงใหม่ : เป็นรีสอร์ทสไตล์บูติคขนาด 40 ห้องพัก สร้างอยู่ใจกลางกรุงเก่าของเมืองเชียงใหม่ ถูกออกแบบให้มีลักษณะเป็นหมู่บ้าน ล้อมรอบด้วยสวนคอร์ทยาร์ด ตรงกลางมีต้นมะขามขนาดใหญ่อายุกว่า 200 ปี อันเป็นสัญลักษณ์ประจำของรีสอร์ท ช่วยให้สัมผัสบรรยากาศแบบล้านนา และพักผ่อนท่ามกลางความเงียบสงบในช่วงฮันนีมูน ช่วยให้ได้ความเป็นส่วนตัวอย่างแท้จริง

          3. มันนอกรีสอร์ท : สถานที่ฮันนีมูนสุดฮิตของคู่ข้าวใหม่ปลามัน มักหนีไม่พ้นเกาะสวยสงบงาม มีเพียงหาดทราย สายลม สองเรา มันนอกรีสอร์ทจึงเป็นคำตอบสำหรับทุกความฝันข้างต้น ห้องพักที่นี่ถูกออกแบบได้อย่างกลมกลืนกับธรรมชาติ และยังคงไว้ซึ่งสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วน ยิ่งไปกว่านั้น เขายังจำกัดจำนวนห้องพักไว้อย่างพอเหมาะ และมีนโยบายรักษาความสงบของผู้มาเยือนเป็นสำคัญ หมดห่วงเรื่องผู้คนพลุกพล่าน ทำลายความเป็นส่วนตัวของคุณไปได้เลย

          4. Belle Villa เมืองปาย แม่ฮ่องสอน : เส้น ทางสู่เมืองปายค่อนข้างลำบาก แต่สำหรับคู่รักที่ชอบธรรมชาติน่าจะถือโอการสมาเยือนปายสักครั้ง ที่ Belle Villa บูติกรีสอร์ทแห่งนี้ เตรียมความประทับใจในช่วงฮันนีมูนของคุณไว้ด้วยบ้านพักแบบ Deluxe Cottage ท่ามกลาวทิวเขาสีเขียวสลับซับซ้อน ยามเช้าเหมาะแก่การตื่นมาชมทะเลหมอกด้วยกัน ส่วนกลางวันก็ไปนั่งชมบรรยากาศแสนโรแมนติกในร้านกาแฟ แนะนำว่าควรมาฮันนีมูนช่วงหน้าหนาว เพราะเมื่อความเย็นสัมผัสผิวกาย เป็นใครก็คงอดใจหันไปกอดกับหวานใจข้าง ๆ ไม่ได้แน่

           5. บ้านพักตากอากาศ By the Sea ตราด  : สุด ปลายแผ่นดินตะวันออกคือท้องทะเลเงียบสงบของจังหวัดตราด เป็นที่ตั้งของบ้านพักตากอากาศจำนวน 11 หลังเรียงรายรอบประภาคารสูง โทนหลักในการตกแต่งของที่นี่เป็นสีฟ้า - ขาว เมื่อรวมเข้ากับรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับทะเล ทำให้รู้สึกถึงความสงบเงียบและเรียบง่าย เป็นส่วนตัว โดยเฉพาะชั้นบนสุดของประภาคารเป็นห้องกระจกแหดเหลี่ยมขนาดใหญ่ เหมาะมากแก่การใช้ชีวิตช่วงฮันนีมูนกันแค่สองคน นั่งชมวิวได้ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ จนคุณและเขาอยากจะอยู่ที่นี่ไปอีกนาน
               จะเห็นได้ว่า 5 สถานที่ในครั้งนี้จะเป็นภาคเหนือ และตะวันออก เนื่องจากครั้งก่อนได้นำสถานที่ทางภาคใต้เป็นส่วนใหญ่มาแนะนำกัน เอาเป็นว่าเพื่อนๆชอบบรรยากาศแบบไหนก็ลองๆดูกันนะจ๊ะ ขอให้มีความสุขกับการฮันนีมูนน๊า

10 สถานที่ฮันนีมูนในเมืองไทย! (เที่ยวหน้าฝนกับคนรู้ใจ)

      
         สวัสดีค่ะเพื่อนๆ เริ่มต้นเดือนใหม่กันอีกไม่กี่วัน เป็นเดือนแห่งวันแม่ 12 สิงหาคม ซึ่งเป็นเดือนที่มีวันมงคลให้ได้เห็นเจ้าบ่าวเจ้าสาว จูงมือกันเข้าสู่ประตูวิวาห์กันหลายคู่ จึงมีความคิดที่อยากนำสถานที่เหมาะกับการฮันนีมูนหน้าฝน ให้ได้ชุ่มฉ่ำหัวใจกันไปเลย พูดแล้วก็อิจฉาว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวนะคะ งั้นเรามาเริ่มกันเลยค่ะ


      1. รายาวดีรีสอร์ท กระบี่ : ท่ามกลางความเงียบสงบ บรรยากาศผ่อนคลายบวกกับสีของท้องฟ้าสีคราม น้ำทะเลสีฟ้าใส หาดทรายสีขาวซึ่งเป็นหาดส่วนตัวในอ่าวพระนาง ทำให้บรรยากาศลงตัว เป็นสถานที่อันเพอร์เฟ็คเป็นที่สุดกับคู่บ่าวสาวที่มาดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ เมื่อก้าวลงมายังหาดทรายสีขาว จะรู้สึกได้ถึงความเป็นส่วนตัว และสัมผัสถึงธรรมชาติโดยรอบอันมีทิวต้นมะพร้าวยืนต้นอยู่เรียงราย ดั่งกับมาแสดงความยินดีในชีวิตคู่ ทั้งสถาปัตยกรรมการออกแบบทรอปิคอล ให้อารมณ์ความเป็นไทยในสไตล์หรูหรายิ่ง เห็นแล้วอยากไปสักครั้งในชีวิต แต่ดูราคาแล้ว โอ้! หาเจ้าบ่าวให้ได้ก่อนดีกว่า

       2. บันยันทรี ภูเก็ต : แค่ชื่อก็บอกแล้วว่าต้องมีดีด้านสปาแน่นอน เพราะที่นี่ติดอันดับสปาที่ยอดเยี่ยม 20 อันดับระดับโลกเชียว โดยมีแพคเกจ Heavenly Honeymoon เตรียมไว้สำหรับคู่รักโดยเฉพาะ โปรแกรมเด็ด Intimate Moments เป็นการอาบน้ำแนวสปา ซึ่งอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมเย็นของดอกมะลิ และลาเวนเดอร์ภายในห้องนอนที่ตกแต่งด้วยเทียนหอม น้ำมันหอม และดอกไม้ เคล้าเสียงเพลงเบาสบายเพื่อผ่อนคลายขณะอาบน้ำด้วยกัน ว้าว! อะไรจะโรแมนติกสุดๆขนาดนั้น ต้องไปให้ได้เช่นกัน

        3. The Chedi ภูเก็ต : สถานที่แห่งนี้การันตีได้ในด้านการตกแต่งแบบโรงแรมชั้นนำระดับโลกทีเดียว ในตัวรีสอร์ทมีหาดเป็นส่วนตัว โอบล้อมด้วยแนวทิวต้นมะพร้าวที่ยืนต้นตามสันเขาเรียงรายไล่ระดับกันลงมา บรรจบกันที่หาดทรายสีขาว รีสอร์ทมีกระท่อมทั้งหมด 108 หลัง ซึ่งถูกออกแบบให้มีระเบียงยื่นหันหน้าเข้าสู่ชายหาด สามารถชมวิวทะเลได้ทุกห้อง และได้ยินเสียงคลื่นซัดมาเกยชายหาด ได้บรรยากาศในการนอนจนคุณและคนรัก ไม่อยากจะตื่นจากความโรแมนติกนี้เลยเชียวล่ะ

       4. เมืองกุเรปัน เกาะสมุย : ได้ยินชื่อแล้วรู้สึกคุ้นหูใช่มั๊ย ก็ชื่อกุเรปันนั้นมาจากวรรณคดีเรื่อง อิเหนา ซึ่งสถาปนิคผู้ออกแบบนั้นได้แรงบันดาลใจ สรรสร้างให้ได้บรรยากาศสุดโรแมนติกเฉกเช่นดั่งอยู่ในวรรณกรรมเรื่องอิเหนาซะเอง เพราะไม่ว่าจะเป็นชื่อโรงแรม บรรยากาศ ชื่อห้อง ตลอดถึงการตกแต่งก็อิงจากเรื่องนี้ทั้งสิ้น ซึ่งคุณสามารถเลือกห้องพักได้จากห้องขนาดกลาง ชื่อฮันนีมูนอิเหนา หรือ ฮันนีมูนดีลักซ์ และล่าสุดมีห้องที่สรรสร้างขึ้นใหม่คือห้อง ประเสบันอากง และ เรือนหลวง ซึ่งเมื่อพักในห้องก็ยังสามารถมองเห็นวิวของท้องทะเลได้แบบพาโนรามาเลยทีเดียว

        5. The Evason Resort & Spa หัวหิน : ท่ามกลางพื้นที่กว่าสิบไร่ของรีสอร์ทแห่งนี้ ถูกล้อมรอบด้วยสวนทรอปิคัลที่มีอาณาเขตกว้างขวาง มีทั้งต้นไม้ สระบัวและธารน้ำไหลไปจรดยังอ่าวไทย ห้องพักตกแต่งด้วยสีเอิร์ธโทน ดูสบายตากลมกลืนกับธรรมชาติ ดดยเฉพาะอย่างยิ่ง ห้องPool Villa เป็นห้องที่เหมาะในการฮันนีมูนเพราะมีสระว่ายน้ำ และอ่างอาบน้ำกลางสวนส่วนตัว และล้อมรอบด้วยสระบัวอีก1 ชั้น ทำให้คุณและหวานใจลืมสิ่งแวดล้อมอื่นๆโดยรอบเพราะมัวแต่เพลิดเพลินกับบรรยากาศในห้องและสวนส่วนตัวในขณะที่อยู่ในอ่างกับคนรู้ใจของคุณ


         สำหรับหน้านี้ขอนำเสนอสถานที่ฮันนีมูนเพียง 5  ที่ให้ได้พิจารณากันก่อน แล้วจะมานำเสนออีก 5 ที่ในครั้งต่อไป ขอให้คู่รักเพลิดเพลินในการฮันนีมูนนะคะ

วันเสาร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

เทศกาลทุ่งดอกกระเจียว เที่ยวหน้าฝน

           สวัสดีเพื่อนๆชาว hotelsthailand-travel จ้า ช่วงนี้ได้วางแพลนเที่ยวไหนกันรึยัง ถ้ายังไม่มี วันนี้เรามีตัวเลือกที่สวยงามอีกที่หนึ่งมานำเสนอ นั่นคือ ทุ่งดอกกระเจียว ที่จังหวัดชัยภูมินั่นเอง  ซึ่งช่วงนี้ได้มีการจัดเป็นเทศการแห่งการท่องเที่ยวของตัวจังหวัดด้วย
      
          "งานเทศกาลท่องเที่ยวดอกกระเจียวงาม จังหวัดชัยภูมิ ประจำปี 2554"  จัดขึ้น ณ อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม อำเภอเทพสถิต และอุทยานแห่งชาติไทรทอง อำเภอหนองบัวระเหว จังหวัดชัยภูมิ ระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน - 31 สิงหาคม 2554
 
           กิจกรรมมากมายในเทศกาลนี้ อาทิ ขบวนแห่กระเจียวคืนทุ่ง การแสดงดนตรีจากนักเรียนของอำเภอเทพสถิต การแข่งขันเดินเพื่อการกุศล ชมสวนหินงามป่าหินล้านปีที่มีการเปลี่ยนแปลงไป ตามธรรมชาติปั้นแต่งตามแต่จะสุดจินตนาการ การแสดงและจำหน่ายสินค้าที่มีชื่อเสียงของจังหวัดชัยภูมิ
อีกทั้งทุ่งดอกกระเจียวสีขาว สีเขียวและสีชมพูอมม่วง น้ำตกไทรทอง และจุดชมวิวผาหำหดของอุทยานแห่งชาติไทรทอง ก็เป็นอีกสถานที่ที่รอการมาเยือนของนักท่องเที่ยวให้เดินทางท่องเที่ยว ด้วยหัวใจใหม่ อันจะส่งผลให้การท่องเที่ยวของจังหวัดชัยภูมิยั่งยืนได้

                เวลาในการเที่ยวชมยังมีอยู่จนถึงสิ้นเดือนสิงหาคมนี้เท่านั้น ว่างๆก็หาโอกาสไปสูดบรรยากาศดีๆ รับโอโซน และผ่อนคลายไปกับธรรมชาติทุ่งดอกกระเจียวกันให้ได้นะคะ
     

นักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่:
ประชาสัมพันธ์จังหวัดชัยภูมิ โทรศัพท์ 0 4482 2502
ศูนย์ข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยวองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ 
โทรศัพท์ 0 4481 1376
ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชัยภูมิ โทรศัพท์ 0 4481 1218
หอการค้าจังหวัดชัยภูมิ โทรศัพท์ 0 4481 1511
ททท.สำนักงานนครราชสีมา โทรศัพท์ 0 4421 3030, 0 4421 3666 ทุกวันในเวลาราชการ
ข้อมูลจากsanook.com
           

วันศุกร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

โรงแรมแนะนำเมื่อเที่ยวหมู่เกาะอ่างทอง

        สวัสดีเพื่อนๆทุกคนนะคะ วันก่อนได้แนะนำสถานที่เที่ยวของสุราษฎร์ธานีไปนั่นคือ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทองนั่นเอง แต่เรามีที่เที่ยวแล้ววันนี้เลยมานำเสนอที่พักดีๆระดับ 4 ดาวให้เพื่อนๆได้ชมกัน นั่นคือ โรงแรมโคโคนัท วิลล่า รีสอร์ท (จำชื่อกันดีๆล่ะ) เผื่อใครสนใจใช้บริการจะได้เก็บข้อมูลได้จ้า


       โรงแรมโคโคนัท วิลล่า รีสอร์ท ตั้งอยู่ทางใต้ของเกาะสมุยเป็นรงแรมที่บรรยากาศดีเยี่ยม อยู่ห่างไกลจากความแออัดของผู้คน เหมาะสำหรับผู้ที่อยากพักผ่อนอย่างแท้จริง ตัวโรงแรมมีลักษณะเป็นตึก 2 ชั้น จำนวน 2 ตึกตั้งเรียงขนานหันหน้าเข้าหากัน โดยมีสระว่ายน้ำกั้นกลาง โดยห้องจะมี 2 แบบ คือ แบบ Pool View (อยู่ชั้นบนต้องเดินลงบันไดลงมาเพื่อว่าน้ำในสระว่ายน้ำ) และแบบ Pool Access (ชั้นล่าง สามารถลงเล่นน้ำที่สระว่ายน้ำได้เลย) ชอบบรรยากาศแบบไหนก็เลือกพักกันได้ ซึ่งราคาไม่แตกต่างกันมากนัก

       ต่อมาเรามาดูห้องพักกันบ้าง ภายในห้องพักจะดูกว้างขวาง ใช้โทนสีที่ดูสบายตาในการตกแต่ง ห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำสามารถเปิดประตูห้องเพื่อนั่งแช่ในอ่างและดูทีวีไปพร้อมๆกันได้(ห้องพักในฝันเลย) ช่วยให้ผ่อนคลายได้อีกระดับหนึ่ง ส่วนระเบียงจะมีขนาดที่กว้างพอเหมาะกับห้องพัก มีชุดเก้าอี้นั่ง เพื่อชมวิวได้ ซึ่งทางโรงแรมได้ออกแบบให้แมทช์กันกับลักษณะของห้องพักมาก

       สระว่ายน้ำเป็นสระที่ยาวขนานกับตัวตึก น้ำในสระใสมาก สวยงามๆเพราะมีการใช้กระเบื้องสีฟ้าน้ำทะเล ส่งผลให้น้ำในสระสีสวยพอสมควร อีกทั้งในเวลากลางคืน เมื่อน้ำกระทบกับแสงไฟยิ่งทำให้ดูสวยอย่างไม่ต้องมีคำบรรยายเลยทีเดียว

       สุดท้ายบรรยากาศของการต้อนรับ และความเป็นกันเองของพนักงาน นั้นจากที่ลองอ่านรีวิวของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาตินั้นล้วนพอใจในการบริการของพนักงานของโรงแรมเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งระดับความพอใจโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 8.5/10 ถือว่าดีพอสมควรเลยทีเดียว

      วันนี้ขอนำโรงแรมมาแนะนำเพียงโรงแรมเดียวก่อนนะจ๊ะ ยังไงหากใครสนใจอยากจะเข้าพักอย่างไรก็ลองหาจองโรงแรมได้เลยจ้า ซึ่งเทคนิคการเลือกห้องพักก็มีแนะนำไว้ให้ก่อนหน้านี้แล้ว ยังไงก็ลองนำไปใช้กันดูนะ

ขอขอบคุณข้อมูลรีวิวผู้เข้าพัก และรูปภาพประกอบจาก http://www.hotelresort2thai.com/ ค่ะ

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง

          เมื่อหลายวันก่อนได้คุยกับเพื่อนคนนึง เค้าได้ไปเที่ยวหมูเกาะอ่างทองมา และกลับมาเล่าให้ฟัง พร้อมทั้งเก็บภาพมาฝาก เห็นว่าวิวสวยดีค่ะ ที่สำคัญเห็นบอกว่าสนุก และประทับใจด้วยเลยอยากหาความรู้มาแชร์ประสบการณ์ให้เพื่อนๆได้เห็นกันค่ะ

         อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง อยู่ในตำบลอ่างทอง อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ประกอบไปด้วยหมูเกาะต่างๆจำนวน 42 เกาะ ดดยลักษณะของเกาะโดยรวมเป็นหินปูนสูงชัน มีความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติมากมาย อาทิ เกาะวัวตาหลับที่สามารถชมทิวทัศน์ได้360 องศาเลยทีเดียว หรืออาจจะมาชมความงดงามของวิวทะเลสีเขียวมรกตที่โอบล้อมด้วยขุนเขากันที่ทะเลใน เกาะแม่เกาะ อันเป็นไฮไลต์ที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ทั้งชาวไทยและต่างชาติเดินทางมาเพื่อชมทัศนียภาพเหล่านี้

            แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมีดังนี้
  1. เกาะวัวตาหลับ ตั้งอยู่บริเวณอ่าวคา อันเป็นที่ตั้งของที่ทำการอุทยานแห่งชาติ วึ่งด้านหน้าเป็นหาดทรายขาวสะอาดตาเหมาะแก่การเล่นน้ำเป็นอย่างยิ่ง เมื่อขึ้นไปบนยอดเขาประมาณ 500 เมตร จะมองเห็นวิวของเกาะต่างๆที่ทอดตัวเรียงกันอย่างสวยงาม การเดินทางมี 2 ทาง คือทางบก และทางน้ำ ทางบกจะใช้เส้นทางจุดชมวิวที่อ่าวคา และเกาะวัวตาหลับ ส่วนทางน้ำจะมี 2 ที่ได้แก่รอบๆเกาะผี โดยการพายเรือแคนูเที่ยวชม และ หาดอ่าวคา-ชายหาดหน้าทับ
       กิจกรรม : เล่นน้ำ แค้มปิ้ง ดำน้ำตื้น ชมทิวทัศน์ เที่ยวถ้ำหินงอกหินย้อยต่างๆ แลพายเรือคายัค

  2. ทะเลใน อยู่บนเกาะแม่เกาะ ห่างออกไปจากเกาะวัวตาหลับไปทางทิศเหนือ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที มีลักษณะเป็นแอ่งยุบขนาดใหญ่คล้ายทะเลสาบ มีความลึกประมาณ 7 เมตร สีของน้ำทะเลที่นี่ต่างจากน้ำทะเลภายนอกเกาะ เพราะท้องน้ำตื้นและมีทรายเป็นส่วนมาก
        กิจกรรม : ชมวิวทิวทัศน์ และเที่ยวถ้ำ

  3. เกาะสามเส้า อยู่ตรงข้ามกับเกาะแม่เกาะ ที่นี่เป็นแหล่งปะการังที่สมบูรณ์ และมีสถาปัตยกรรมทางธรรมชาติที่งดงาม ได้แก่ สะพานหินธรรมชาติที่ทอดตัวโค้งยาวออกไปสู่ทะเล
       กิจกรรม : ดำน้ำตื้นดูปะการัง พายเรือแคนู/คายัค แค้มปิ้ง และเล่นน้ำตามชายหาด

  4.  เกาะวัวกันตังและเกาะท้ายเพลา อยู่ทางเหนือของหมู่เกาะอ่างทอง เป็นเกาะที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการความเงียบสงบมาพักผ่อน เพราะมีหาดทรายที่ขาวสะอาด และเป็นจุดที่มีปะการังน้ำตื้นที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของอุทยานเลยทีเดียว
       กิจกรรม : ดำน้ำตื้น เล่นน้ำตามชายหาด

  5. เกาะหินดับ เป็นเกาะที่มีหาดทรายสวยงามและยาวที่สุดในอุทยานแห่งชาติ
      กิจกรรม : ชมวิว และเล่นน้ำตามชายหาด


      ที่พักที่รองรับนักท่องเที่ยว ได้แก่
   1. บ้านบินหลาดง เข้าพักได้ 8 คน ราคา หลังละ 800 บาท/คืน
   2. บ้านกัลปังหา เข้าพักได้ 6 คน ราคา 600 บาท / คืน
   3. บ้านลมหวล พักได้ 10 คน ราคา 1000 บาท / คืน
   4. บ้านปะการัง พักได้ 2 คน ราคา 400 บาท / คืน
   5. เต็นท์ให้เช่าไม่มีเครื่องนอน มี 3 ขนาด คือ ขนาด 8-10 คน ราคา  300 บาท/คืน, ขนาด 3-5 คน ราคา 200 บาท/คืน และขนาด 2 คน ราคา 100 บาท/คืน
        และทุกคนต้องจ่ายค่าใช้สถานที่พักแรมต่างๆอีกคนละ 20 บาท/คน/คืน

        เพื่อนๆคนไหนที่มีใครอยากไปเที่ยวชมหมู่เกาะอ่างทองกัน ก็ขอให้เตรียมตัวและกล้องถ่ายรูปไว้ไปเก็บภาพสวยๆกันนะจ๊ะ ที่พักเราก็มีมาแนะนำแล้ว ขาดก็แต่เวลาที่จะได้ไปนี่สิ เศร้าเลย แต่ยังไงจะหาโอกาสไปทะเลสวยๆแบบนี้แน่นอน


       สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่      อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทองถ.ตลาดล่าง อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี 84000
     โทร. (077) 420 225286 025 หรือที่งานบริการบ้านพัก ส่วนอุทยานแห่งชาติทางทะเล สำนักอนุรักษ์ทรัพยากร ธรรมชาติ กรมป่าไม้ จตุจักร กรุงเทพฯ 10900 โทร.02 561 2918-21


   ภาพประกอบจาก paiduaykan.com

วันอาทิตย์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

8 สิ่งเพื่อเตรียมพร้อมก่อนตะลุยเที่ยว..

        จากที่ได้แนะนำเพื่อนๆชาว hotelsthailand-travel.com ไปเกี่ยวกับเรื่องทริคในการจองโรงแรม และแนะนำที่เที่ยวต่างๆไปบ้างแล้ว วันนี้เราจะนำรายละเอียดการ เตรียมตัวก่อนเดินทาง มาให้เพื่อนๆได้เตรียมความพร้อมกันไว้ก่อน (แต่ขอบอกว่าเป็นการเที่ยวแบบไม่ใช้รถส่วนตัวนะจ๊ะ)

    สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนออกเดินทาง
1. ความรู้เกี่ยวกับสถานที่ที่จะไป ว่าเราไปที่นั่นแล้วสามารถทำอะไรบ้าง มีกิจกรรมแบบไหน และเที่ยวตรงนั้นแล้วเรายังไปต่อที่อื่นในบริเวณใกล้ได้อีกมั๊ย ใช้เวลาเท่าไหร่

2. แผนที่ ทำไมต้องเตรียมแผนที่ เพราะเนื่องจากบางครั้งเราอาจไปในที่ที่เพิ่งไปกันเป็นครั้งแรก จึงควรเตรียมพร้อมเกี่ยวกับเส้นทางกันไว้ เพื่อไม่ให้ไปผิดทาง อาจทำให้เสียเวลาในการเดินทาง เผลอๆอาจได้ใช้แผนที่อย่างคุ้มค่ากว่าที่คิดไว้ก็เป็นได้นะจ๊ะ

3. เช็คพาหนะที่เราจะไป เช่น ไปรถสาธารณะก็ควรเช็คเรื่องเวลารถออก ตั๋วโดยสาร และอื่นๆที่เกี่ยวข้องว่ามีอะไรบ้าง เพื่อไม่ให้พลาดเที่ยวรถ และจะพลอยทำให้เสียอารมณ์ในการไปเที่ยวทริปนี้ด้วย

4. ยารักษาอาการเบื้องต้น เช่นยาพารา พลาสเตอร์ยา ยาดม เพื่อป้องกันอุบัติเหตุเล็กๆน้อยๆจากการไปเที่ยวครั้งนี้ แต่ทางที่ดีอย่าให้มีอุบัติเหตุเลยดีกว่านะจ๊ะ

5. เสื้อผ้า และเครื่องใช้ต่างๆที่จำเป็น อาทิ แปรงสีฟัน ยาสีฟัน (จะได้สะดวกและประหยัด)

6. อุปกรณ์บันทึกความทรงจำ เดี๋ยวนี้มีเทคโนโลยีใหม่ๆที่จะทำให้คุณเก็บความทรงจำดีๆในการไปเที่ยวยังที่ต่างๆ เช่น กลล้องถ่ายรูป กล้งวีดีโอ เป็นต้น เพื่อจะได้นำกลับมาชื่นชมในวันหลังได้

7. บัตรประจำตัวประชาชน อันนี้สำคัญเช่นเดียวกัน คุณอาจจะคิดว่าไม่จำเป็นนี่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นทางการ แต่ขอบอกเลยว่าจำเป็นแน่นอน เพราะเมื่อเราจะเข้าโรงแรมก็ต้องใช้ยืนยันสิทธิ์ที่จองไว้ และหากเกิดกรณีฉุกเฉิน บัตรประชาชนเป็นสิ่งแรกที่ต้องใช้ เพื่อระบุความเป็นตัวคุณแน่นอน

8. เงิน เป็นปัจจัยที่สำคัญมากๆสำหรับนักท่องเที่ยวทุกคน  เพราะสิ่งนี้ใช้เพื่อเพิ่มความสุขในกิจกรรมต่างๆให้กับเรานอกเหนือจากความสุขจากใจที่เราได้ไปเที่ยวนั้น แต่ถึงอย่างไร เงินก็ไม่ใช่สิ่งเดียวที่จะทำให้เรามีความสุขได้นะจ๊ะ

         จะเห็นได้ว่าสิ่งที่ได้บอกไปนั้นล้วนแล้วแต่สำคัญ และขาดไม่ได้เลยทีเดียว มิเช่นนั้นเราจะพลาดโอกาสแห่งรอยยิ้มและความสุขสุดๆจากการเที่ยวทริปที่เราตั้งไว้ หวังว่าคงนำไปใช้เตรียมพร้อมก่อนการเดินทางกันนะ

วันเสาร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

หน้าฝนนี้! เที่ยวไหนกันดี

            สวัสดีเพื่อนๆชาวโฮเทลไทยแลนด์ทุกคนจ้า ช่วงนี้เข้าพรรษาแล้ว อีกนัยนึงก็คือหน้าฝนนนั่นเอง แต่เอ๊ะเอ๊ะ ถึงแม้จะเป็นหน้าฝนแล้วแต่เราก็ยังสรรหาสถานที่ท่องเที่ยวที่ท้าทาย และเหมาะกับช่วงหน้าฝนกันมาให้เพื่อนๆได้เก็บไว้เป็นตัวเลือกอีกที่หนึ่ง นั่นคือ แก่งหินเพิง ณ ปราจีนบุรีนั่นเอง

ภาพประกอบจาก www.tat8.com
  แก่งหินเพิง นี้เป็นแก่งลำน้ำใสขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ที่หน่วยพิทักษ์ป่า ขญ.9 อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี เป็นแก่งที่อยู่ในระดับ 3-5 นักล่องแก่งจึงต้องใช้ทักษะและ ความชำนาญในการพายเป็นอย่างสูง ซึ่งช่วงเวลาที่เหมาะกับการล่องแก่งได้นั้น อยู่ในช่วงเดือน กรกฎาคม - ตุลาคม ของทุกปี เนื่องจากในช่วงนี้เป็นฤดูฝน จึงมีกระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก สร้างความท้าทายในกับแฟนๆนักล่องแก่งอย่างแน่นอน สำหรับทริปการล่องแก่งนั้นจะผ่านแก่งต่างๆทั้งหมด 6 แก่งด้วยกัน
          1. แก่งหินเพิง ซึ่งแก่งนี้เป็นหัวใจหลักของทริปล่องแก่งในครั้งนี้เนื่องจากมีกระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก ต้องอาศัยทักษะจึงท้าทายเป็นอย่างยิ่ง แก่งมีความยาวประมาณ 150 เมตร ใครอยากท้าทายก็สมใจกันเลยจ้า
          2. แก่งผักหนามล้อม เป็นกระแสน้ำขนาดใหญ่ไหลวนไปมา แต่กระแสน้ำไม่แรงมากนัก สามารถพายเรือได้อย่างสบายๆ
          3. แก่งวังบอน มีความยาวประมาณ 30 เมตร กระแสน้ำจะไหลเป็นทางลาดเอียงลงมายังแก่งลูกเสือเป็นมุม 30 องศา แก่งนี้พายเรือกันได้แบบชิวๆนะจ๊ะ
          4. แก่งลูกเสือ เป็นอีกแก่งหนึ่งที่เราพายเรือกันได้แบบชิวๆ ชมวิวธรรมชาติข้างทาง แต่ต้องระวังอันตรายจากกิ่งไม้ข้างทาง ที่อาจจะโดนหนามเกี่ยวหรือตำให้เรามีแผลกลับไปได้นะจ๊ะ
          5. แก่งวังไทร เป็นแก่งที่มีความกว้างพอสมควรประมาณ 60 เมตร และยาวประมาณ 150 เมตร และต้องใช้ทักษะในการพายเรือค่อนข้างสูงเช่นเดียวกับแก่งหินเพิง เนื่องจากกระแสน้ำจะไหลม้วนตัวเป็นวงคลื่น จึงสนุกกันได้อีกรอบหลังจากพักเหนื่อยกันมาจากแก่งก่อนหน้านี้แล้ว และส่วนใหญ่แก่งนี้จะเป็นแก่งสุดท้ายที่นักล่องแก่งส่วนใหญ่ขึ้นไปพักรับประทานอาหารและอาบน้ำกันจ้า
          6. แก่งงูเห่า เป็นแก่งสุดท้ายในทริปนี้ ปริมาณน้ำไหลจะไหลในลักษณะแบบฝายกั้นน้ำ จึงพายเรือกันได้ไม่ยากนัก

               เป็นอันว่าทราบรายละเอียดของแก่งกันไปทั้ง 6 แก่งแล้ว จะเห็นได้ว่าทริปล่องแก่งของเราครั้งนี้เหมาะมากเนื่องจากแก่งแรกนี้เหนื่อยพอสมควร แต่เราก็ได้พักกันที่แก่งที่ 2, 3 และ 4 จากนั้นก็มาท้าทายใหม่ในแก่งที่ 5 ซึ่งทำให้เหมือนมีความท้าทายและระทึกใจได้ตลอดเวลาจริงๆ ขอแนะนำให้ลองไปพิสูจน์ความท้าทายกันได้ที่นี่ แก่งหินเพิง จ้า

วันพฤหัสบดีที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

9 สิ่งมหัศจรรย์แห่งวัดโพธิ์

           มีโอกาสได้อ่านหนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับเมื่อไม่นานมานี้ เห็นข่าวเกี่ยวกับ Unseen in Thailand ซึ่งมีนักท่องเที่ยวได้โหวตให้วัดโพธิ์ได้ติดอันดับด้วย จึงอยากเอาความรู้เกี่ยวกับเรื่อง 9 สิ่งมหัศจรรย์แห่งวัดโพธิ์มาฝากเพื่อนๆชาว hotelsthailand-travel กันค่ะ เริ่มกันเลยจ้า


       ที่แรก :  มหัศจรรย์พระไสยาส  พระพุทธรูปขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ โดยมีลักษณะพิเศษ คือ มีประดับมุกภาพมงคล 108 ประการที่พระบาท




      อันดับสอง : มหัศจรรย์ตำราเวชเชตุพน   ศาลาจารึกตำรานวดแผนโบราณ   มีจิตรกรรมลายเส้นบอกตำแหน่งนวด นับเป็นบันทึกที่รวบรวมสรรพวิชาทั้งการแพทย์ การเมือง การปกครอง ประวัติการสร้างวัด และ วรรณคดี นับเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศ




        อันดับสาม : มหัศจรรย์มหาเจดีย์ สี่รัชกาล  เป็นมหาเจดีย์ขนาดใหญ่ 4 องค์ องค์พระเจดีนั้นเป็นแบบเจดีย์ย่อไม้สิบสอง ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบ อันประกอบด้วย พระมหาเจดีย์ประจำรัชกาลที่ 1 – 4

        อันดับสี่ : มหัศจรรย์ต้นตำนานสงกรานต์ไทย  คติความเชื่อตำนานสงกรานต์ ซึ่งรัชกาลที่ 3 ให้จารึกลงในแผ่นศิลาติดไว้ที่วัดโพธิ์ เป็นเรื่องเล่าถึงความเป็นมาของประเพณีดังกล่าว โดยสมมุติผ่านเรื่องราวธรรมบาลกุมารและนางสงกรานต์ทั้งเจ็ดเทียบกับแต่ละวันในสัปดาห์




        อันดับห้า : มหัศจรรย์มรดกโลกวัดโพธิ์    ซึ่งรัชกาลที่ 3 ทรงให้นำองค์ความรู้จากปราชญ์ของไทยเช่น ตำราการแพทย์ โบราณคดี วรรณกรรม โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอนฯลฯ จารึกลงบนแผ่นหินอ่อนประดับไว้ตามบริเวณผนังภายในวัดซึ่งความรู้ที่จารึกไว้บนแผ่นศิลาในปัจจุบันรวมเรียกว่า ประชุมจารึกวัดพระเชตุพน โดยองค์การยูเนสโกมีมติรับรองขึ้นทะเบียนศิลาจารึกพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เป็นเอกสารมรดกความทรงจำแห่งโลก

           อันดับหก : มหัศจรรย์ตำนานยักษ์วัดโพธิ์  บอกเล่าเรื่องราวตำนานเกี่ยวกับยักษ์วัดโพธิ์และยักษ์วัดแจ้งซึ่งทำให้เกิดท่าเตียนในปัจจุบัน

          อันดับเจ็ด : มหัศจรรย์ผ่านภพรัตนโกสินทร์   พระอุโบสถหลังเก่าของวัดโพธารามตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา แต่ภายหลังการสถาปนาพระอุโบสถหลังใหม่ของวัดพระเชตุพนแล้ว จึงได้ลดฐานะเป็นศาลาการเปรียญ โดยภายในมี "พระพุทธศาสดา” ประดิษฐานเป็นพระประธาน

          
           อันดับแปด : มหัศจรรย์วิจิตรพระพุทธเทวปฏิมากร  ภายในพระอุโบสถ ประดิษฐานพระพุทธเทวปฏิมากร เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ซึ่งรัชกาลที่ 1 ทรงอัญเชิญมาจากวัดศาลาสี่หน้า ด้วยประสงค์ตั้งมั่นแน่วแน่ว่า นี่จะเป็นพระนครอย่างถาวร

           อันดับเก้า : มหัศจรรย์ต้นตำรับนวดแผนไทย  รัชกาลที่ 1 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้รวบรวมการแพทย์แผนโบราณและศิลปะวิทยาการครั้งกรุงศรีอยุธยาไว้ ทรงพระราชดำรินำเอาท่าดัดตนอันเป็นการพักผ่อนอิริยาบถแก้เมื่อยตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย และประยุกต์กับคติไทยที่ยกย่องฤษีเป็นครูผู้ประสิทธิ์ประสาทวิทยาการต่างๆ เป็นรูปฤาษีดัดตน แสดงท่าไว้ที่วัดเพื่อให้ราษฎรทั่วไปได้ศึกษาเล่าเรียนและรักษาโรคได้อย่างกว้างขวาง

         จะเห็นได้ว่าเมืองไทยของเรายังมีสถานที่น่ามหัศจรรย์ให้ได้เที่ยวได้ชมกันมากมาย เราเป็นคนไทยเที่ยวกันทั่วแล้วหรือยัง อย่าลืมหาโอกาสไปเที่ยวชมสถานที่ต่างๆที่ได้แนะนำมาเบื้องต้นนี้ด้วยนะคะ
ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก : travel.mthai.com/travel-blog/40718.html

วันอาทิตย์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ว้าว! ทริปเที่ยวเกาะล้าน ทะเลสวย น้ำใสสีคราม

           สวัสดีเพื่อนๆ hotelsthailand-travel ทุกคนนะคะ วันนี้ไปสอบกฟภ. ที่ ม.รังสิตมา เหนื่อยมาข้อสอบก็หนักหนาเอาการ งงไปตามๆกัน พูดแล้วปวดหัวไม่อยากพูดถึงเลย

วิวหาดแสม
          งั้นวันนี้มาย้อนวันวานที่เคยได้ไปเที่ยวกันดีกว่า ว่าแล้วก็หยิบยกเอาทริปที่ได้ไปเที่ยวเกาะล้านกับเพื่อนๆเมื่อต้นเดือนมีนาที่ผ่านมานี้เอง ว่าแล้วก็ให้ชมภาพความสวยงามกันไปด้วยเลย เราเริ่มออกเดินทางกันแต่เช้า ขึ้นรถตู้ที่อนุสาวรีย์ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึงท่าเรือไปเกาะล้าน ใช้เวลาเพียงไม่นานก็ไปถึงเกาะล้าน เมื่อเราจัดแจงเก็บข้าวของกันเสร็จแล้ว ทริปเที่ยวของเราก็เริ่มขึ้น


พักผ่อนกับแสงแดดบนชายหาดตาแหวน
             หาดแรกที่เราไปกันคือ หาดตาแหวน ได้ยินข่าวมาว่าหาดที่นี่สวยมาก น้ำทะเลใสสีสวย เมื่อไปถึงก็ ว้าว! สุดยอดน้ำทะเลสีสวย แถมของกินเพียบการันตีความสวยได้จากภาพ และบรรดานักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่หลั่งไหลมาเที่ยวพักผ่อนกันเยอะเลยทีเดียว ยิ่งช่วงวันหยุดอย่างนี้คนยิ่งเยอะ แดดแรงกำลังดี แถมมีเก้าอี้ชายหาดไว้คอยบริการเพียบ! สนุกกันเลยทีเดียว ว่าแล้วเมื่อเล่นน้ำทะเลกันมาเหนื่อยๆ ก็เริ่มหิว เลยต้องมีการหาของกินรองท้องกันซะหน่อย เลยจัดการหาอาหารดีๆ (น่าจะนะ อิอิ)

ของกินแก้หิว
        อาหาร : ของกินที่เราสรรหากันมาแต่ละอย่าง บางอย่างอาจจะไม่เข้ากับการมาเที่ยวทะเล แต่ก็ของโปรดอ่ะ อยากกิน! ของกินแก้หิวของเรามีส้มตำไทยปู ส้มตำปูปลาร้า ปลาหมึกทอด ลูกชิ้นปลาหมึก ไส้กรอก และอื่นๆที่เรากินกันไปหมดแล้วก่อนหน้านี้ ถึงจะเป็นอาหารธรรมดา แต่ก็ช่วยให้เราอิ่มกันเลยทีเดียว วันนี้เราเล่นน้ำทะเลกันจนถึงตอนเย็นก็กลับที่พักแล้ว แต่ก็รู้สึกประทับใจกับหาดตาแหวนเป็นอย่างมาก วันหลังจะแวะมาเที่ยวอีกแน่นอน ฟันธง!

ของฝากที่ขายที่ท่าเรือ
           คืนนี้เรานอนหลับกันอย่างมีความสุข รุ่งเช้าเราก็จัดแจงเก็บข้าวของเตรียมตัวกลับไปผจญกับความวุ่นวายในเมืองกรุงกันต่อ คิดแล้วก็ท้อใจกับอาชีพพนักงานบริษัทอย่างเราๆ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ ลืมไป! ก่อนขึ้นเรือเราได้แวะซื้อของฝากตรงท่าเรือหน้าบ้าน ของฝากที่เราซื้อมาก็มีพวกของฝากเล็กๆน่ารักๆ และของกิน ซึ่งขาดไม่เคยได้เลยอิอิ

         ไว้วันหลังหากมีทริปใหม่ๆจะเอามาแนะนำให้เพื่อนๆได้ติดตาม และเป็นข้อมูลไว้ เผื่อจะได้ไปเที่ยวกันบ้างในช่วงทริปวันหยุดยาวนะจ๊ะ

วันพฤหัสบดีที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

Trick ดีๆเปรียบเทียบราคาก่อนคลิกจอง!

          สวัสดีชาว hotelsthailand-travel ทุกคนค่ะ เมื่อวันก่อนได้เกริ่นเรื่อง 7Trickในการจองโรงแรมกันไปบ้างแล้ว วันนี้เราจะมาเจาะลึกลงไปถึงการเช็คราคาห้องพักของเว็บตัวแทนขายโรงแรมกันนะคะ อย่างที่บอกไปว่าการจองจากเว็บตัวแทนขายโรงแรม จะได้ราคาถูกมากกว่าการจองจากทางโรงแรมโดยตรง เนื่องจากมีโปรโมชั่นให้เลือกเยอะ แต่เราจะแน่ใจได้อย่างไรกันว่าเว็บไหนจะได้ราคาถูก และคุ้มค่าที่สุด เราจึงมีทริคการเปรียบเทียบมาฝากกันค่ะ

Trick การเปรียบเทียบราคาและความคุ้มค่าของห้องพัก

        1. เปรียบเทียบราคาหลายๆเว็บ : เมื่อเลือกห้องที่ต้องการเข้าพัก แล้วจึงเข้าเปรียบเทียบกับเว็บตัวแทนขายสัก 2-3 เว็บ เพื่อประกอบการตัดสินใจ

        2. สังเกตราคา :  บางครั้งอาจจะเห็นห้องประเภทเดียวกันแต่ราคาแตกต่างกัน ข้อนี้สำคัญมาก บางคนอาจเห็นราคาถูกกว่าปุ๊บ ก็รีบจองห้องพักจากเว็บนั้นทันที แต่จริงๆแล้ว ราคานั้นเป็นราคาที่ยังไม่รวม VAT เมื่อรวมยอดเงินที่ต้องจ่ายจึงมากกว่าราคาที่แสดงในหน้าเว็บ แต่ก็มีเว็บจองโรงแรมหลายๆเว็บที่จะแสดงราคาสุทธิทั้งหมดไว้แล้ว เช่น booking.com เป็นต้น

        3. ได้รวมอาหารเช้า : ถ้าเปรียบเทียบแล้วราคาเท่ากัน ให้สังเกตว่าห้องได้รวมค่าอาหารไว้ด้วยหรือไม่ ถ้าห้องนึงรวม แต่อีกห้องเป็นห้องอย่างเดียว เลือกได้เลยห้องที่รวมอาหารแน่นอน

นี่เป็นตัวอย่างของเว็บดังๆ 2 เว็บที่นำมาเปรียบเทียบข้อแตกต่างกัน

                                    จากรูปข้างบนเป็นราคาจากเว็บ2เว็บ ไม่ขอเอ่ยชื่อเว็บแล้วกันจ้า เริ่มกันเลยนะ

        - รูปแรกเป็นการแสดงราคาในรูปแบบของคืนเดียว แต่เราต้องการพัก 2 คืน ก็ให้คูณราคากันเอาเอง และยังไม่ได้รวมภาษี7% อีกด้วย ถ้าไม่สังเกตก็แย่นะจ๊ะ

        - รูปที่2 รวมราคาให้พร้อมทั้ง 2 คืน ทั้งยังรวมภาษี และมีเงื่อนไขพิเศษสามารถยกเลิกการจองได้ฟรีอีกด้วย เห็นมั๊ยละ ของสมนาคุณเพียบ


             นี่เป็นเกร็ดเล็กๆน้อยที่หลายๆคนมองข้าม หากเราสังเกตสักนิดจะได้ห้องพักในราคาที่น่าพอใจ ไว้วันหลังมีทริคดีๆจะมาเล่าให้ชาวบล็อกเกอร์ฟัง
กันอักนะจ๊ะ

วันพุธที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

7 Trick ดีๆในการเลือกโรงแรมให้ได้ดั่งใจ

            สวัสดีชาวบล็อกเกอร์ ดอทคอมนะคะ ช่วงนี้ฝนฟ้าเริ่มตกไม่เป็นใจ ตกบ่อยจนไม่รู้ว่าจะออกไปไหนได้บ้าง แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม วันนี้มีเรื่องดีๆมาฝากเกี่ยวกับการเลือกโรงแรมกันนะคะ
          เริ่มกันเลยดีกว่า แต่ก่อนอื่นต้องค้นหาสถานที่เที่ยวที่เราอยากจะไปเที่ยวกันก่อน ว่าที่ไหนน่าสนใจและที่ไหนน่าเที่ยวบ้าง อาทิ อยากไปไหว้พระ ขึ้นเขา เที่ยวทะเล หรืออยากดำน้ำ เป็นต้น เมื่อได้แหล่งที่เที่ยวแล้วต่อไปเราก็มาเลือกโรงแรมกันเลย

          1. งบประมาณ : การจะเลือกโรงแรมนั้นเราต้องดูงบประมาณว่าสามารถเข้าพักโรงแรมได้ในช่วงราคาเท่าไหร่ และอยากพักโรงแรมสไตล์ไหน เช่นรีสอร์ท บังกะโล หรือแบบเป็นเรสซิเดนซ์

          2. โรงแรมที่ชอบ : เมื่อได้สไตล์โรงแรมแล้วเราก็เริ่มจัดการหาโรงแรมโดยลองเลือกโรงแรมที่ชอบๆมาสัก2-3 โรงแรมเพื่อประกอบการตัดสินใจ และที่สำคัญควรเลือกโรงแรมให้อยู่ใกล้กับสถานที่ที่เราต้องการไป และแหล่งอำนวยความสะดวกอื่นๆด้วย เพื่อจะได้สะดวกในการไปมา และไม่เหนื่อยในการเดินทาง

          3. Website : เปิดเว็บไซต์เปรียบเทียบราคา และโปรโมชั่นต่างๆ อาทิเช่น เว็บของ agoda.com , sawadee.com, hotelresort2thai.com และ booking.com เป็นต้น แล้วเปรียบเทียบว่าเว็บไหนที่ให้ราคาถูก มีโปรโมชั่นดีๆ เช่นจอง 2 คืน ฟรี 1 คืน หรืออื่นๆเป็นต้น แล้วเปรียบเทียบถึงมีความคุ้มค่าของกันและกัน

          4. Promotion ร่วม : หากมีการร่วมโปรกันกับบัตรเครดิตต่างๆก็ควรพิจารณาไว้เปรียบเทียบอีกอย่าหนึ่ง เพราะอาจจะได้ส่วนลดจากราคาลงมาอีกระดับหนึ่งเป็นต้น

          5. Only Room : ควรจองโรงแรมเฉพาะแค่ห้องพักเท่านั้น เนื่องจากจะได้ราคาที่ต่ำลงมาจากห้องรวมค่าอาหารอีกระดับหนึ่ง และหลีกเลี่ยงการจองที่พักในช่วงเทศกาล  เช่น สงกรานต์ ปีใหม่ และวันหยุดสุดสัปดาห์เป็นต้น แต่หากต้องการพักผ่อนในช่วงเวลาดังกล่าวก็ทำใจเรื่องราคานะจ๊ะ

          6. จองล่วงหน้า : หากต้องการพักในช่วงเทศกาลควรจองโรงแรมล่วงหน้า (สัก1-2 สัปดาห์) เพื่อป้องกันห้องพักเต็ม แต่ถ้าไม่ซีเรียสเรื่องที่พัก และมีเวลาในการลงพื้นที่เพื่อหาห้องพักก็สามารถเดินหาห้องพักได้ เพราะจะมีโรงแรมระดับ 1-2 ดาว ที่มีราคาไม่สูงนัก

          7. จองด้วยwebsite ได้ถูกกว่า : หากต้องการพักโรงแรมระดับ 3 ดาวขึ้นไป ควรจองจากเว็บไซต์ดังกล่าวที่ได้บอกไปบ้างแล้วในข้างต้น เพราะห้องพักจะมีราคาถูกมากกว่าการเข้าไปจองถึงโรงแรมในระดับหนึ่งเลยทีเดียว

          Trick ดังกล่าวที่ได้แนะนำไปหวังว่าจะช่วยประโยชน์ในการเลือกจองโรงแรมให้กับชาวhotelsthailand-travel นะจ๊ะ